“เราต้องดุดันกว่านี้” นี่คือคำพูดที่ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวด้วยความไม่พอใจทันทีหลังจบเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่พ่ายแพ้เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว โดยชี้ไปที่จังหวะเสียประตูแรกที่ เฌเรมี่ โดกู ลากเลื้อยผ่านผู้เล่นของเขาถึง 4 คน เช่นเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่มองเห็นปัญหาเดียวกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสัปดาห์ที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในแคมป์แคร์ริงตัน
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่แตกต่างออกไป ในขณะที่คู่แข่งร่วมลีกกำลังลงทำการแข่งขันฟุตบอลยุโรป แต่ ยูไนเต็ด กลับมีเวลาเต็มๆ ที่สนามซ้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ อโมริม ต้องการมาโดยตลอด เขาย้ำเสมอว่าทีมของเขายังไม่พร้อมสำหรับเกมยุโรป และเวลาในสนามซ้อมคือสิ่งจำเป็นที่สุดในการสร้างทีมตามปรัชญาของเขา
และเมื่อถูกถามในวันศุกร์ว่าเขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มไปกับอะไร คำตอบที่ได้รับก็คือคำเดิมที่หนักแน่นกว่าเดิม “ความดุดัน”
“เราต้องดุดันมากขึ้นในกรอบเขตโทษ” อโมริม กล่าว “เราแค่ต้องรักษาแนวทางการเล่นของเราไว้ แต่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้นทั้งในกรอบเขตโทษของเราและของคู่แข่ง นั่นคือเป้าหมายหลักในสัปดาห์นี้”
และแล้วทุกอย่างก็บังเกิดผลในวันเสาร์ ความดุดัน, ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณนักสู้ที่ อโมริม เรียกร้อง ถูกปลดปล่อยออกมาตั้งแต่นาทีแรกในเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุดหย่อน ในเกมที่พวกเขาเฉือนเอาชนะ เชลซี ไปได้อย่างสุดมันส์
“คุณสัมผัสมันได้เลย โดยเฉพาะในช่วงต้นเกมตอนที่ยังมีผู้เล่น 11 ต่อ 11 คน” อโมริมกล่าวหลังเกม “มันไม่ใช่เรื่องของการเล่นที่สวยงามในตอนนี้ แต่มันคือการเข้าหาบอลแรก, การเก็บบอลจังหวะสอง, ความดุดัน และความเร็ว”
ความเกรี้ยวกราดนั้นแสดงให้เห็นตั้งแต่ก่อนที่ โรเบิร์ต ซานเชซ จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 5 ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการเล่นที่ดุดันของเจ้าบ้านนั่นเอง จังหวะที่ อัลตาน บายินดีร์ เปิดบอลยาวขึ้นหน้าอย่างรวดเร็วให้ เบนจามิน เซสโก้ โหม่งชงให้ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ หลุดเดี่ยวเข้าไป จนบีบให้ ซานเชซ ต้องตัดสินใจผิดพลาด
หลังจากนั้นคือ 45 นาทีที่เกือบจะสมบูรณ์แบบของ ยูไนเต็ด พวกเขาใช้ความได้เปรียบตัวผู้เล่นไล่บีบเพรสซิ่งจน เชลซี เล่นไม่ออก และนำมาซึ่งประตูขึ้นนำจากการไล่บล็อกของ อาหมัด ดิยัลโล่ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะเข้าชาร์จจ่อๆ เข้าไป เช่นเดียวกับประตูที่สองที่มาจากความขยันของ ลุค ชอว์ ที่วิ่งทะลุเข้าไปในดงผู้เล่นเชลซี ก่อนจะตบบอลให้ กาเซมิโร่ ยิงง่ายๆ
แน่นอนว่าความดุดันก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ใบเหลืองที่สองของ กาเซมิโร่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกคือตัวอย่างที่ชัดเจน แม้ อโมริม จะไม่ได้ตำหนิลูกทีมออกสื่อ แต่ก็ยอมรับว่า “แน่นอน เขาต้องทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะนั้น แต่เกมในวันนี้เราแสดงให้เห็นตั้งแต่ต้นว่าเราต้องการชัยชนะมากแค่ไหน”
การเหลือ 10 คนเท่ากันในครึ่งหลังไม่ได้ทำให้ ยูไนเต็ด กลับไปเป็นฝ่ายครองเกมได้ พวกเขามีเปอร์เซ็นต์ครองบอลเพียง 29% แต่กลับได้แสดงให้เห็นถึง “ความดุดัน” ในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือการต่อสู้อย่างมีวินัยในเกมรับ ทั้ง ลุค ชอว์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ช่วยกันปกป้องกรอบเขตโทษของตัวเองจนวินาทีสุดท้าย
ชัยชนะในเกมนี้จึงไม่ใช่แค่ 3 คะแนน แต่มันคือชัยชนะของ “คาแรคเตอร์” และเป็นคำตอบที่ดังและชัดเจนที่สุดต่อสิ่งที่ผู้จัดการทีมของพวกเขาเรียกร้องมาตลอดสัปดาห์ และนี่อาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลง “ทัศนคติ” ของทีมไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง