แอตแลนตา – ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เชื่อว่า อินเตอร์ ไมอามี ของเขามีสิทธิ์สร้างความประหลาดใจด้วยการโค่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึก ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก วันอาทิตย์นี้ แม้จะยอมรับว่าศักยภาพของทีมยังห่างชั้นจากยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศส
แม้จะถูกมองว่าเป็นรอง แต่ อินเตอร์ ไมอามี ที่มี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นผู้นำ ก็สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้แบบเหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่าง เปแอสเช ที่สนาม เมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดียม ถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่
“เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดในแบบของเรา และทำไมเราจะฝันถึงการสร้างเซอร์ไพรส์ไม่ได้ล่ะ?” กุนซือชาวอาร์เจนไตน์กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์
“ผมบอกกับลูกทีมว่านี่มันยังไม่จบ เรายังมีเกมให้เล่น แม้จะต้องเจอกับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก แต่ฟุตบอลคือสิ่งที่อะไรก็เกิดขึ้นได้”
“ทำไมเราจะไม่ลองเล่นให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เราทำได้ และคว้าโอกาสในการต่อสู้เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไปล่ะ?”
แม้ เปแอสเช จะเป็นทีมที่ถูกยกให้เหนือกว่าอย่างมาก มาสเคราโน่ ยืนยันว่าทีมของเขายังมีความหวัง ก่อนที่จะลงสนาม
“เราไม่ใช่คนไร้เดียงสา เรารู้ดีว่าเราคือทีมรอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เตะ เราจะสู้เต็มที่ นี่คือหัวใจของฟุตบอล และเราสมควรได้รับโอกาสในเกมนี้”
กุนซือวัย 40 ปี ยังกล่าวถึง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ปัจจุบันเป็นผู้เล่นของ ไมอามี ว่าเป็นเรื่องดีที่เขาอยู่ฝั่งของตัวเอง
“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ ลีโอ มักจะได้รับความสนใจเสมอ พวกเราในอาร์เจนตินารู้ดีหลังจากแชมป์โลกเมื่อปี 2022”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาอยู่ในสภาพที่ดี และเขาเป็นผู้เล่นของเรา นั่นทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ และสุดท้ายมันก็แค่เกมฟุตบอล”
การพบกันอีกครั้งของอดีตเพื่อนร่วมทีม
มาสเคราโน่ ยังพูดถึงการได้กลับมาเจอกับ หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือของ เปแอสเช ซึ่งเคยเป็นเจ้านายของเขา รวมถึงนักเตะ ไมอามี อย่าง เมสซี่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, หลุยส์ ซัวเรซ และ ฆอร์ดี้ อัลบา ที่เคยร่วมกันคว้าเทรเบิลกับ บาร์เซโลนา เมื่อปี 2015
“หลุยส์ เป็นหนึ่งในโค้ชที่ดีที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย เรามีความสัมพันธ์ที่ดี เขาเป็นคนที่ทำให้ผมตัดสินใจอยู่กับ บาร์ซา ต่อในตอนนั้น เขาแสดงให้เห็นความสามารถทั้งกับสโมสรและทีมชาติ”
“การได้วัดฝีมือกับโค้ชระดับนี้ และทีมระดับนี้ ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ”
เสียงจากดาวรุ่ง
อินเตอร์ ไมอามี ผ่านเข้ารอบมาในฐานะอันดับสองจากกลุ่ม A โดยมีชัยเหนือ ปอร์โต้ ซึ่งถือเป็นผลการแข่งขันที่น่าประทับใจ
เฟเดริโก เรดอนโด้ กองกลางวัย 22 ปี บุตรชายของอดีตแข้ง เฟร์นานโด เรดอนโด้ แห่ง เรอัล มาดริด ยอมรับว่าทีมต้องเล่นเกมรับให้ดี หากหวังมีโอกาสสร้างผลการแข่งขันในเกมนี้
“ความจริงคือ พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก และเมื่อคุณเจอกับทีมระดับนี้ พวกเขาจะครองเกมและบังคับให้คุณต้องเล่นเกมรับมากขึ้น” เจ้าตัวกล่าว
แม้จะเผชิญหน้ากับทีมแชมป์ยุโรป แต่ เรดอนโด้ เผยว่าคุณพ่อไม่ได้ให้คำแนะนำพิเศษใดๆ
“เขาแค่บอกให้ผมสนุกกับเกม และให้เราทำในสิ่งที่เราทำมาตลอด เพราะที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีถึงสามนัดแล้ว”