พอล เมอร์สัน ออกมาเตือนกุนซือ คริสตัล พาเลซ อย่าง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ว่าอย่ารีบร้อนรับงานคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมย้ำว่าเขา “ไม่ใช่คนที่เหมาะสม” สำหรับตำแหน่งผู้จัดการทีมในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มฤดูกาลใหม่อย่างน่าผิดหวัง รั้งอันดับ 14 บนตารางพรีเมียร์ลีก หลังแพ้ไปแล้ว 3 จาก 5 เกม และตกรอบ คาราบาวคัพ ตั้งแต่ต้น ด้วยการพ่ายให้กับ กริมสบี้ ทาวน์
รูเบน อโมริม ซึ่งเข้ามาคุมทีมแทน เอริก เทน ฮาก เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากผลงานย่ำแย่ต่อเนื่อง โดยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยอมปรับระบบ 3-4-3 ที่ยังไม่เวิร์กกับทีม
แม้บอร์ดบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงให้การสนับสนุน อโมริม แต่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับตัวแทนคนใหม่ก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ โดย โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เป็นตัวเต็งหาก เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ และกลุ่ม ไอเนออส ตัดสินใจปลดเขาออก
กุนซือวัย 51 ปีรายนี้เพิ่งพา คริสตัล พาเลซ คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ เมื่อฤดูกาลก่อน และตามด้วยแชมป์ คอมมิวนิตี ชิลด์ จากการเอาชนะ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างเหนือความคาดหมาย ปัจจุบันทีมยังไม่แพ้ใครเลยใน 18 นัดติดต่อกัน รั้งอันดับ 3 ของลีกหลังผ่านไป 6 เกม และเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใคร โดยนัดล่าสุดเพิ่งเชือด ลิเวอร์พูล 2-1 ที่สนาม เซลเฮิร์สต์ พาร์ก
อย่างไรก็ตาม อดีตแข้งพรีเมียร์ลีกอย่าง เมอร์สัน ตั้งคำถามว่า งานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสำหรับ กลาสเนอร์
เมอร์สัน วิเคราะห์ผ่านคอลัมน์ของเขาใน สกาย สปอร์ตส์ ว่า
“โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ทำผลงานได้มหัศจรรย์กับ คริสตัล พาเลซ มันแทบจะไม่น่าเชื่อจริง ๆ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยม มีความสมดุล ไม่ตื่นเต้นเกินไปและไม่ห่อเหี่ยวเกินไป เขาสร้างทีมที่นักเตะทุกคนเข้าใจหน้าที่ของตัวเองได้อย่างชัดเจน”
เขาเสริมว่า
“คริสตัล พาเลซ มีขุมกำลังที่เหมาะกับระบบกองหลังสามคน หากวันนี้ รูเบน อโมริม มาคุมที่นี่ เขาก็อาจไปได้สวย เพราะนักเตะของพาเลซเล่นระบบนี้ได้ แต่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันไม่ใช่เลย และนั่นคือเหตุผลที่ผมคิดว่า กลาสเนอร์ ไม่เหมาะกับที่นั่น”
“แน่นอนว่าเขาอาจปรับตัวได้ แต่ระบบที่เขาชอบใช้ไม่เข้ากับนักเตะของ ยูไนเต็ด เลย ซึ่ง อโมริม ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว”
สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปีศาจแดง เพิ่งแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 อย่างหมดรูป และกำลังเข้าสู่โปรแกรมสำคัญที่อาจเป็นตัวตัดสินอนาคตของ อโมริม
พวกเขามีคิวเปิดบ้านเจอ ซันเดอร์แลนด์ วันเสาร์นี้ ตามด้วยการบุกเยือนคู่ปรับตลอดกาล ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟีลด์ สัปดาห์ถัดไป ต่อด้วยเกมใหญ่กับ ไบรท์ตัน ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนบุกไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปีที่ อโมริม เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม