7msport

“ผมคือผู้แพ้คนแรก… แต่ผู้ชนะคือพี่ชาย” อเล็กซ์ มาร์เกซ เปิดใจหลังสร้างประวัติศาสตร์รองแชมป์โลก MotoGP

สุดสัปดาห์ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (24-26 ตุลาคม 2025) ได้ปิดฉากลงพร้อมกับการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการ MotoGP… สองพี่น้องตระกูล “มาร์เกซ” ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในฐานะ “แชมป์โลก” และ “รองแชมป์โลก” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และสำหรับ อเล็กซ์ มาร์เกซ แล้ว นี่คือบทสรุปของฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตค้าแข้งรุ่นพรีเมียร์คลาสของเขา

แม้จะพลาดตำแหน่งสูงสุดให้กับพี่ชาย แต่การคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับช่วยให้ Gresini Racing คว้าตำแหน่ง “ทีมอิสระยอดเยี่ยม” ก็คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะคาดฝันไว้เมื่อต้นฤดูกาล

ผมคือผู้แพ้คนแรก” อเล็กซ์เริ่มต้นบทสัมภาษณ์ด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนจะเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา “สุดสัปดาห์นี้ผมทำพลาดไป ผมคาดหวังว่ามันจะง่ายกว่านี้ เริ่มต้นด้วยการล้มใน FP1, ล้มอีกครั้งในรอบซ้อมฟรี และแม้แต่ในรอบควอลิฟายก็ยังยากลำบาก”

“แต่ถึงแม้ผมจะไม่รู้สึกอิสระเต็มที่บนรถ แต่เราก็สามารถการันตีอันดับสองในแชมเปี้ยนชิพได้สำเร็จ… วันนี้แผนมันชัดเจน เราปรับปรุงความรู้สึกได้ในรอบวอร์มอัพ และในเรซผมก็สามารถแซง อคอสต้า และ เป็คโก้ ได้ มันเป็นเรซที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ”

คุณค่าที่เทียบเท่าแชมป์โลก เมื่อถูกถามถึงคุณค่าของตำแหน่งรองแชมป์โลก MotoGP เมื่อเทียบกับการคว้าแชมป์ในรุ่น Moto2 และ Moto3 อเล็กซ์ได้ให้คำตอบที่น่าประทับใจ ซึ่งสะท้อนถึงการเดินทางอันยากลำบากของเขาในรุ่นสูงสุด

“มันมีคุณค่าที่ใกล้เคียงกันนะ มันคืออันดับสองก็จริง แต่มันไม่ใช่เรื่องปกติ” เขากล่าว “เส้นทางของผมใน MotoGP มันไม่ง่ายเลย ผมเริ่มต้นได้ดีในปี 2020 กับโพเดี้ยมในฐานะรุกกี้กับฮอนด้า จากนั้นก็ย้ายไป LCR และในปี 2023 ผมเกือบจะต้องอยู่บ้านแล้ว แต่สุดท้ายด้วยโชคเล็กๆ ผมก็ได้รับโอกาสกับ Gresini ดังนั้น มันจึงพิเศษมาก”

“แน่นอนว่าผมคือผู้แพ้คนแรก” เขาย้ำพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง “แต่ผู้ชนะคือพี่ชายของผม ดังนั้นมันจึงเป็นความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มันพิเศษเมื่อพิจารณาว่าเรามาจากจุดไหน ดังนั้น นี่คืออันดับสองที่ดีมากๆ”

บทเรียนจากกลางฤดูกาล และความสุขที่ได้กลับมา เขายอมรับว่าช่วงกลางฤดูกาลคือช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด “เราหลงทางไปเล็กน้อย โดยเฉพาะหลังจากอุบัติเหตุที่ แอสเซน และอาการบาดเจ็บ คุณเริ่มขี่ได้ไม่ดี ไม่สามารถเค้นรถได้อย่างที่ควรจะเป็น”

“แต่เมื่อคุณต้องเจ็บปวดแล้วยังจบอันดับ 6 ได้ นั่นหมายความว่าคุณได้ก้าวไปข้างหน้าแล้ว ความกดดันมันรับมือไม่ง่ายเสมอไป แต่ตอนนี้เราสามารถสนุกกับเรซที่เหลือได้แล้ว”

เรื่องราวของ อเล็กซ์ มาร์เกซ ในฤดูกาล 2025 จึงเป็นมากกว่าแค่การไล่ล่าตำแหน่งรองแชมป์โลก แต่มันคือการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง, การก้าวข้ามอุปสรรค และการค้นพบ “เกียรติยศ” ในเงาของพี่ชายผู้เป็นตำนาน และเขาก็ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า เขาก็คือ “แชมเปี้ยน” ในแบบฉบับของตัวเอง