สโมสรอาร์เซน่อลกำลังวางแผนโครงการครั้งประวัติศาสตร์ในการ “ขยาย” สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รังเหย้าของตนเอง โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มความจุให้มากกว่า 70,000 ที่นั่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกระดับสโมสรให้ทัดเทียมกับทีมยักษ์ใหญ่ทั่วทั้งยุโรป แต่โครงการขนาดใหญ่นี้อาจต้องแลกมากับการที่ทีมต้อง “ย้ายบ้านชั่วคราว” โดยมี “สนามเวมบลีย์” เป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด
ตามรายงานจาก The Telegraph สโมสรอาร์เซน่อลได้ทำการศึกษาโมเดลการปรับปรุงสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของ เรอัล มาดริด ที่ใช้งบประมาณสูงถึง 1.7 พันล้านยูโร เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการปรับปรุงและเพิ่มความทันสมัยให้กับ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เป้าหมายหลักคือการเพิ่มความจุสนามจากปัจจุบันที่ 60,704 ที่นั่ง ให้ทะลุหลัก 70,000 ที่นั่ง ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะทำให้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กลายเป็น สนามฟุตบอลของสโมสรในพรีเมียร์ลีกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอน แซงหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม (62,850 ที่นั่ง) และ ลอนดอน สเตเดี้ยม ของ เวสต์แฮม (62,500 ที่นั่ง) ได้ทันที โดยคาดว่าโครงการนี้อาจใช้งบประมาณราว 500 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงโครงสร้างอัฒจันทร์ครั้งใหญ่นี้ จะทำให้สโมสรไม่สามารถใช้งานสนามได้ และจำเป็นต้องย้ายรังเหย้าชั่วคราว ซึ่งแตกต่างจากตอนที่สร้างสนามเอมิเรตส์ใหม่ๆ ที่ทีมยังคงสามารถใช้สนามไฮบิวรี่เดิมได้
ทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการย้ายไปใช้ สนามเวมบลีย์ เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่คู่ปรับตลอดกาลอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เคยทำมาแล้ว โดยในฤดูกาล 2017-18 สเปอร์สได้จ่ายเงิน 15 ล้านปอนด์เพื่อเช่าสนามเวมบลีย์เป็นรังเหย้าเป็นเวลาเกือบ 2 ฤดูกาล ระหว่างการก่อสร้างสนามแห่งใหม่ของพวกเขา
แม้ว่าแผนการทั้งหมดจะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความทะเยอทะยานของบอร์ดบริหารอาร์เซน่อล ที่ต้องการจะเติบโตและพัฒนาสโมสรในทุกๆ ด้าน เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต