7msport

“ถ้าขี่ได้แค่อันดับ 10 เขาไล่ผมออกแน่” อัลเดเกร เปิดใจรับชะตากรรม Plan B ของ Ducati

กฎเหล็กแห่งโบรโก ปานิกาเล: “ผลงานต้องมาก่อนสัญญา” อัลเดเกร เตือนเพื่อนร่วมค่าย Ducati ไม่มีใครปลอดภัย

ในโลกความเร็วระดับพรีเมียร์คลาส กระดาษสัญญาอาจมีค่าน้อยกว่าเสี้ยววินาทีในสนาม และไม่มีใครรู้ซึ้งถึงสัจธรรมข้อนี้ดีไปกว่า เฟอร์มิน อัลเดเกร ดาวรุ่งชาวสแปนิชที่เพิ่งก้าวเข้ามาสัมผัสบรรยากาศความกดดันระดับสูงของ Ducati

แม้จะมีสัญญาอยู่ในมือ แต่อัลเดเกรรู้ดีว่าเขากำลังยืนอยู่บนปากเหวแห่งความคาดหวัง ในจักรวาลของ Ducati ผลงานคือเสียงที่ดังที่สุด และลายเซ็นบนกระดาษไม่ได้การันตีความปลอดภัย “ต่อให้มีสัญญา พวกเขาก็ยกเลิกมันได้ พวกเขาเคยทำแบบนี้กับนักแข่งหลายคนมาแล้ว” อัลเดเกรกล่าวด้วยความสัตย์จริงและเจ็บปวด

หัวใจสำคัญของตลาดนักบิดปี 2027 เริ่มต้นและจบลงที่ชื่อเดียว: มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกคนปัจจุบัน ค่ายแดงจากอิตาลียกให้เขาเป็นรากฐานสำคัญของโปรเจกต์ และพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งตัวเขาไว้ ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า Honda HRC จ้องจะดึงอดีตราชากลับคืนถิ่น เมื่อมาร์คคือ “ของตาย” ที่ต้องเก็บไว้ แรงกดดันมหาศาลจึงเทไปที่คนอื่นๆ ที่เหลือในทีม

สถานการณ์ของ ฟรานเชสโก “เปคโก้” บัญญาญ่า ไม่เคยเปราะบางเท่านี้มาก่อน ฤดูกาล 2025 ถูกประเมินภายในทีมว่าเป็น “หายนะ” (Catastrophic) สถานะนักบิดที่แตะต้องไม่ได้ของเขาได้พังทลายลงแล้ว หากเปคโก้ยังกู้ฟอร์มกลับมาไม่ได้ในช่วงต้นปี 2026 Ducati จะไม่ลังเลที่จะเขี่ยเขาพ้นทีมโรงงานทันที

เฟอร์มิน อัลเดเกร ถูกวางตัวเป็น “Plan B” ที่ชัดเจนที่สุด แม้จะคว้าตำแหน่ง Rookie of the Year 2025 ด้วยผลงาน 1 ชัยชนะ (อินโดนีเซีย) และ 6 โพเดียม แต่เขารู้ดีว่านั่นยังไม่พอ “ถ้าไม่มีผลงาน ก็ไม่มีเฟอร์มิน อัลเดเกร ใน MotoGP… ปีหน้าถ้าค่าเฉลี่ยผมอยู่ที่อันดับ 10 หรือแย่กว่านั้น พวกเขาไล่ผมออกแน่” อัลเดเกรกล่าวอย่างรู้ชะตา

Ducati คาดหวังให้เขาสร้างปรากฏการณ์แบบเดียวกับ เปโดร อคอสต้า ที่ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นตัวท็อปได้ในเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ เขายังต้องเร่งแก้จุดอ่อนเรื่องรอบคัดเลือก ที่ในปี 2025 เขาพ่ายแพ้ต่อเพื่อนร่วมทีมอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ ไปถึง 20 จาก 22 สนาม

ข้อความจากโรงงานดูคาติ (Borgo Panigale) นั้นชัดเจนและไร้ความปรานี: ผลงานมาก่อนสัญญา อนาคตของทีมถูกสร้างไว้รอบตัว มาร์ค มาร์เกซ ส่วนคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เปคโก้, อัลเดเกร, หรือแม้แต่นักแข่งจากทีม VR46 อย่าง มอร์บิเดลลี และ ดิจิอันนันโตนิโอ ต่างต้องสู้ยิบตาเพื่อเก้าอี้ของตัวเอง

ที่ Ducati กฎมีเพียงข้อเดียว: ใครทำได้… ได้ไปต่อ ใครล้มเหลว… เตรียมเก็บกระเป๋า